หลักการและเหตุผล
วัดเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ เป็นศูนย์รวมทางด้านจิตใจ เป็นศูนย์กลาง ในการศึกษาด้านสังคมและวัฒนธรรมของชุมชน วัดบางแห่งได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทำให้ประชาชน นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา เข้าไปทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่และที่ใกล้เคียงและอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและประชาชนได้ สำหรับวัดรวกบางบำหรุ
โครงการส่งเสริมการพัฒนาวัด
1. เพื่อให้ วัด มีสิ่งแวดล้อมที่ดี
2. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ ศาสนิกชนที่มาประกอบศาสนกิจ ประชาชนที่เกี่ยวข้องกับวัด มีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อม
3 เพื่อให้เป็นคนมีจิตใจเสียสละเพื่อส่วนรวม
4.เพื่อสร้างความสามัคคี ร่วมใจทำงานเป็นหมู่คณะ
วัดรวกบางบำหรุ บางพลัด กรุงเทพมหานคร
- วัด จำนวน 1 แห่ง
ระยะเวลาดำเนินการ
1 วัน วันศุกร์ที่ 16 เวลา 08.00 น.-15.00 น.
1.ดำเนินการติดต่อสถานที่ วัน จันทร์ ที่ 12 กรกฎาคม 2553
2.นัดหมายสมาชิกในกลุ่ม จำนวน 9 คน
กำหนดการ
วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม 2553
เวลา 7 ชั่วโมง
ตั้งแต่ 08.00 น.-15.00 น.
แบ่งเป็น 2 ช่วง
08.00 น.-11.00 น.พัก 12.00 น.-15.00 น.
แต่งตัวเป็นระเบียบ
สวมเสื้อมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตสีฟ้า
ใส่กางเกงขายาว
รองเท้าผ้าใบ
เข้าพบท่านเจ้าอาวาส
ถวายอาหารเช้า
ทำความสะอาดกวาดลานวัด
ล้างห้องน้ำภายในบริเวณวัด
จัดสถานที่ภายในบริเวณวัด
ลอกคลองระบายน้ำ
ล้างพื้นรอบพระอุโบสถ
ดายหญ้า
เก็บขยะบริเวณวัด
1 วัด มีคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีและเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ศาสนาและการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชนในพื้นที่
2 ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม
3 มีสื่อเผยแพร่ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับหลักศาสนา
4 ได้มีส่วนในการพัฒนา เพื่อเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม
งบประมาณ
500 บาท.
นักศึกษา หลักสูตร การจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองและอุตสาหกรรม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต จำนวน 9 คน
1.นายอนุชิต สวัสดีตาล 52116603003
2.นายพลวัฒน์ กลั่นธูป 52116603004
3.นายอัครพงษ์ ตั้งพาณิชย์ 52116603023
4.นายนฤนาท โตภู่ 52116603025
5.นายธวัชชัย ศรีสะอาด 52116603029
6.นายฟ้าลั่น ศรัทธาบุญ 52116603030
7.นายจะเด็ด สุดสะนาม 52116603033
8.นายธนกฤต สรหงส์ 52116603036
9.นายไกรวิทย์ บุตรพรม 52116603039
อาจารย์ สิริลักษณ์ กลิ่นขจร
อาจารย์ ภริมา วนิธาสถิตย์กุล
อาจารย์ กรรวิภาร์ หงษ์งาม
วัดรวกบางบำหรุ ตั้งอยู่เลขที่ 1803 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางบำหรุ เขตบางพลั กรุงเทพมหานคร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งโฉนดเลขที่ 939 เนื้อที่ 11ไร่ 1 งาน อาณาเขตทิศเหนือยาว 130.35เมตร ทิศใต้ยาว 102.40เมตร ทิศตะวันออกยาว 157.50เมตร ทิศตะวันตกยาว127.60 เมตร ที่ธรณีสงฆ์จำนวน 9 แปลง เนื้อที่ 27ไร่4 ตารางวา
พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม ลอ้บลอมด้วยสวนไม้ผลไม้ดอกและบ้านเรือนราษฎร มีคูระบายน้ำจากวัดไปถึงคลองบางบำหรุ อาคารเสนาสนะต่างๆมีอุโบสถหลังใหม่สร้าง พ.ศ.2510 ทรงไทยหลังคาลด 3 ชั้นมีมุขหน้าหลังกว้าง 1เมตร ยาว 30.50เมตร อุโบสถหลังเก่าสร้างมาแต่เดิมสมัยพระเจ้าอู่ทอง มีภาพเขียนรูปปราสาทที่ฝาผนัง กุฎีสงฆ์จำนวน 15 หลัง เป็นทรงไทยและทรงปั้นหยา 2 ชั้น ศาลาการเปรียญ 2 ชั้น ทรงไทยมีมุข สำหรับปูชนียวัตถุมีประธานในอุโบสถหลังเก่า เป็นพระพุทธรูปศิลาแลงลงรักปิดทองปางมารวิชัย หน้าตัดกว้าง 55นิ้ว พระประธานในอุโบสถหลังใหม่ นามว่า พระพุทธชัยวัฒน์รัตนมหามุนี หน้าตักกว้าง 6 นิ้ว สร้างด้วยโลหะและลงรักปิดทอง นอกจากนี้มีพระสารีบุตร พระโมคคัลลานโลหะลงรักปิดทองพระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธรูปปางต่างๆ สร้างด้วยโลหะและไม้จำนวน 6 องค์
วัดรวกบางบำหรุ ประชาชนเรียกกันว่า วัดรวก เพราะแต่เดิมมีไม้รวกขึ้นอยู่ทั่วไป ในบริเวณวัด ประกอบกับมีวัดรวกสุธารามอยู่ทาง แขวงบางขุนศรี วัดนี้จึงได้นามว่า วัดรวกบางบำหรุ ต่อท้ายนามวัดด้วย แขวงที่ตั้งวัด วัดนี้สร้างขึ้นราว พ.ศ.2219 โดยพระเจ้าอู่ทอง เมื่อคราวเสด็จหนีโรคระบาดผ่านมาและได้บนไว้ เมื่อปลอดภัยแล้วจึงสร้างวัดขึ้น การบูรณะปฏิสังขรณ์เริ่มขึ้นเมื่อพระครูธรรมรักขิตเป็นเจ้าอาวาสเรื่อยมา วัดนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลังเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2511 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 40เมตร ยาว 80เมตร
การศึกษาทางวัดส่งเสริมให้พระภิกษุ สามเณร ศึกษาพระปริยัติธรรมจากสำนักเรียนอื่นได้ตามอัธยาศัย นอกจากนี้ยังสนับสนุนการการศึกษาของชาติ โดยให้ทาวราชการสร้างโรงเรียนระดับประถมศึกษาในที่ดินวัดเนื้อที่ 3ไร่ 74 ตารางวาอีกด้วย
เจ้าอาวาสจำนวน 10 รูป คือ รูปที่ 1 พระอธิการผึ้ง รูปที่ 2 พระอธิการแดง รูปที่ 3 พระอธิการวอน รูปที่ 4 พระอธิการสิน รูปที่ 5 พระอธิการโสม รูปที่ 6 พระอธิการบัว รูปที่ 7 พระอธิการเป๋า รูปที่ 8 พระอธิการเอื้อเฟื้อ รูปที่ 9 พระครูธรรมรักขิต ดำรงตำแหน่ง ถึง พ.ศ.2517 รูปที่ 10 พระมหากวีวรรณ กิตฺติญาโณ อายุ 48 ปี พรรษา 27 ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ พ.ศ.2519 จนถึงปัจจุบัน
ข้อมูลเมื่อปี พ.ศ.2526